เมื่อเจอทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรม ความหวังเริ่มมีพลังมากขึ้นผมเลยตัดสินใจที่จะสมัครขอรับทุนการศึกษานี้ เพียงเพราะหวังเพื่อให้ผมได้มีการศึกษาที่ดีและมีโอกาสที่จะได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

“กอล์ฟ  สรวิศ ดำรงวุฒิ”
นักเรียนทุน รุ่นที่ 18/2559

⏩ เล่าเรื่องราวย้อนอดีต

        ก่อนที่จะได้รับทุนจากมูลนิธิดำรงชัยธรรม  ด้วยครอบครัวที่มีลูก 2 คน พี่สาวอายุห่างกันแค่ 1 ปี ความต้องการในด้านการเงินเลยมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้เงินเพื่อส่งผมและพี่สาวได้เรียนหนังสือ ประกอบกับทางบ้านที่พ่อกับแม่เป็นแรงสำคัญในการหาเลี้ยงครอบครัว แต่บางครั้งโชคชะตาก็ไม่ได้ดีกับเราทุกคนเสมอไป พ่อของผมซึ่งเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวได้ป่วยลงด้วยโรคหลอดลมตีบ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนและไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ รวมเวลาแล้วประมาณเกือบ 1 ปีเต็มที่พ่อจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวดและพูดกับผมไม่ได้ เวลาผ่านไปได้ไม่นานแม่ก็ป่วยอีกคนเพราะเนื้องอกร้ายบริเวณใกล้กับมดลูก นานวันเข้าแม่ยิ่งมีอาการไม่ดีขึ้น ขณะนั้นผมคิดและบอกกับตัวเองเสมอว่าไม่มีอะไรบนโลกใบนี้แน่นอนเสมอไป แต่เราจะทำอย่างไรให้อนาคตของเราเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงและสามารถแบ่งเบาภาระด้านการเงินของพ่อแม่สักครึ่งนึงหรือไม่รบกวนเลยจะดีกว่า จนผมได้มาเจอกับทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรม ความหวังเริ่มมีพลังมากขึ้นผมเลยตัดสินใจที่จะสมัครขอรับทุนการศึกษานี้ เพียงเพราะหวังเพื่อให้ผมได้มีการศึกษาที่ดีและมีโอกาสที่จะได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เพราะฐานะทางบ้านของผมยากจน

 ความรู้สึกครั้งแรก ตอนที่เข้ามาเป็นนักเรียนทุน ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร…?

        ความรู้สึกครั้งแรกที่เข้ามาเป็นนักเรียนทุนนั้นรู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร พี่ที่ดูแลเราจะดุหรือเปล่า แต่ด้วยความที่เป็นน้องใหม่สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คืออ่านคู่มือนักเรียนทุนที่ทางมูลนิธิให้มาอย่างละเอียดให้เข้าใจและถี่ถ้วน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป อาจจะทำถูกบ้างผิดบ้างก็เป็นเรื่องปกติเพราะเป็นการทำอะไรใหม่ ๆ เป็นครั้งแรก เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็เริ่มปรับตัวได้ ความกลัวก็เริ่มลดลง เมื่อความกลัวหายไปหมด คราวนี้ก็เริ่มสนุกกับการทำอะไรใหม่ ๆ เริ่มมีการวางแผนการส่งเอกสารของตัวเองอย่างรอบคอบเพื่อที่จะไม่ทำให้พี่ที่ดูแลนักเรียนทุนลำบากในการติดตามเอกสารจากผม มีการเข้าไปทักทายและปรึกษากับพี่ที่ดูแลนักเรียนทุนจนทำให้ผมได้ข้อคิดอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งกำลังใจและความห่วงใยที่พี่ ๆ ได้ให้ผมมาตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้เป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิดำรงชัยธรรมเสมอมา

⏩ มีความประทับใจ…ต่อการเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิ?

       ความประทับใจในการเข้ามาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิ คือ ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่มูลนิธิที่ช่วยเหลือและดูแลเด็กคนหนึ่งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ทุกครั้งที่ผมหมดกำลังใจ สถานที่ที่นึกได้เป็นที่แรก ๆ ก็คือ มูลนิธิดำรงชัยธรรม เมื่อได้เข้าไปแล้วความทุกข์ความกังวลก็ลดลงเพราะกำลังใจจากพี่ที่ดูแลนักเรียนทุน รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวีที่เป็นแรงหนุนให้ความกังวลนั้นหมดไป นอกจากนี้ครอบครัวแห่งนี้ก็ยังมีพี่ ๆ ที่จบไปแล้วคอยเป็นผู้ช่วยคอยเป็นผู้ฝึกสอนคอยบอกคอยเตือนและคอยเป็นกำลังใจให้ผม รวมไปถึงทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการที่ได้มาเป็นนักเรียนทุนของมูลนิธิทุกวินาทีล้วนเป็นความประทับใจทั้งสิ้นที่เด็กคนนี้จะไม่มีวันลืม

⏩ สิ่งที่อยากฝากอยากบอกถึงน้องรุ่นหลัง ๆ

        ก่อนอื่นก็ต้องยินดีกับน้องที่เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ บ้านที่มีแต่ความอบอุ่นมีแต่ความรักและความหวังดีกับน้องทุกคน เมื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้แล้วอยากจะบอกกับน้องทุกคนว่า จงตั้งใจเรียนและเป็นบุคคลที่ดีของสังคม พยายามพัฒนาและปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลาเป็นบุคคลที่พร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง อนาคตต่อไปข้างหน้าเราก็ไม่รู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อยากจะบอกให้น้องทุกคนเชื่อและศรัทธาในตัวเอง ครอบครัวและความรักที่ครอบครัวได้ให้ไว้กับน้องๆ นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่อยากจะบอกอีกอย่างก็คือพยายามบริหารจัดสรรเวลา รวมไปถึงเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทางมูลนิธิมอบให้แก่เราให้เกิดประโยชน์และคุณค่าอย่างสูงสุดเท่าที่เราจะทำได้ พยายามเป็นผู้ให้เพราะเราเป็นผู้รับมามากแล้ว สังคมเราจะน่าอยู่ได้ก็ต้องอาศัยพวกเรา ช่วยกันพัฒนา ช่วยเหลือกัน แล้วสังคมเราจะมีความสุขยอมสละความสุขส่วนตัวเราลงสักครึ่งนึงเพื่อที่จะไปเติมเต็มความสุขของคนอื่น เพียงแค่นี้สังคมของเราจะน่าอยู่ขึ้นมากกว่านี้